คำถามเหล่านี้คือคำถามยอดฮิตที่ทุกคนมักจะถามกัน ผมจึงรวบรวมไว้ในนี้
Q: เราควรอายุเท่าไหร่ จึงควรเปิดคลินิก ?
A: ผมคิดว่าอายุไม่ได้เป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ผมคำนึงถึงความพร้อมในด้านต่างๆ ของคุณหมอมากกว่า ซึ่งได้แก่
1.ความพร้อมด้านการเงิน
2.ความพร้อมด้านความรู้ในการเปิดคลินิก
3.ประสบความ/ความเก่งในการทำฟันของเรา
ถ้ามีครบ 3 ข้อนี้คุณหมอก็เป็นคนหนึ่งถือว่าพร้อม
ทั้งนี้ ถ้าคุณหมอเงินยังไม่ค่อยพร้อม จะต้องกู้หนี้ยืมสินมาเป็นจำนวนมากถึงจะเปิดคลินิกได้ และยังไม่ได้หาความรู้หรือทำการบ้านมามากพอ บวกกับประสบการณ์ทำฟันยังน้อยทำฟันได้ไม่กี่อย่างเพราะยังไม่มีโอกาสได้ทำมากพอ ผมอยากให้สะสมความพร้อมก่อนสักระยะ
ถ้าคุณหมอพร้อม คุณหมอจะเปิดได้อย่างมั่นใจและแข่งขันได้ แต่ถ้ายังไม่พร้อมแล้วดันทุรังเปิดผมว่าเครียดไปและยากที่จะประสบความสำเร็จในยุคที่มีการแข่งขันสูงมากๆแบบนี้
Q: ต้องมีเงินเท่าไหร่จึงจะเปิดคลินิกได้ ?
A: อันนี้ขึ้นอยู่กับขนาด (Scale) ของคลินิก ถ้าต่ำสุดก็ขนาด 1 ห้องแถวถ้าเน้นประหยัดสุดๆ 1.4 ล้านก็เอาอยู่ คือเน้นใช้ของราคาถูกหรือของมือสองและบางอย่างก็ไม่ต้องไปลงทุน เช่น เครื่อง Xray OPG ตบแต่งง่ายๆเน้นเฟอร์นิเจอร์ลอย
ทั้งนี้ ถ้าจะเปิดคลินิกเพื่อให้แข่งขันได้การสร้างคลินิกแนวประหยัดอาจจะไม่ตอบโจทย์เรื่อง Branding , การแข่งขัน
แต่ทั้งนี้ไม่มีอะไรที่เป็นกฎตายตัว ถ้าคุณหมอเปิดแนวประหยัดแต่ทำฟันดีและการตลาดดีก็เป็นไปได้ที่จะมีคนไข้ ตรงกันข้ามถ้าลงทุนกับคลินิกไปเป็นสิบ หรือ ร้อยล้าน แต่คุณภาพการบริการทุกอย่างต่ำแลการตลาดก็ไม่ทำก็เจ๊งได้แน่นอน
Q: ถ้าเราลงทุนด้วยเงินที่น้อยที่สุดเพื่อจะเปิดคลินิก ด้วยเหตุผลว่าถ้าเจ๊งขึ้นมาจะไม่เจ็บตัวมาก แบบนี้ได้ไหม ?
A: ส่วนตัวผมไม่ส่งเสริมการเปิดคลินิกในลักษณะ เปิดเผื่อเจ๊ง เพราะในความเป็นจริงคลินิกคือสถานบริการคนไข้ คุณจะปิดคลินิกแล้วคนไข้ที่รักษาค้างอยู่จะทำอย่างไร ? บางอย่างเป็นผลงานของคุณหมอที่ทำฟันให้เขา ไม่ว่าจะครอบฟัน รักษารากฟัน แล้วอนาคตเขาจะมาซ่อนหรือมาแก้งานที่ไหนละ ? เพราะคลินิกเป็นมากกว่าแค่ธุรกิจทำเงินแบบร้านชาไข่มุกหรือร้านเบเกอรี่ที่อยากจะเลิกก็เลิกได้ แต่ด้วยจรรยาบรรณเราเองก็มี commitment กับคนไข้ในฐานะหมอด้วย
ผมอยากให้มองในอีกมุมดีกว่าคือแทนที่จะคิดแนว เผื่อเจ๊ง เปลี่ยนมาเป็น เปิดยังไงให้ชนะ ดีกว่า
ถ้าคิดจะถึงขั้นมาลงทุนทำธุรกิจทันตกรรม ผมอยากชวนให้จริงจังวางเป้าหมายว่าเราจะต้องเปิดให้สำเร็จ และอะไรที่จะทำให้เจ๊งก็จงปิดช่องโหว่ไป และถ้าคิดว่าจะเสี่ยงที่จะเจ๊งจริงๆ การเป็นมือปืนต่อไปก็ไม่มีอะไรเสียหาย
Q: ถ้าผมอยากเรียนการเปิดคลินิก หรือ ธุรกิจทันตกรรมจริงจัง มีแนวทางใดบ้าง
A: ถ้าต้องการเพิ่มความรู้แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย(ฟรี) คุณหมอสามารถอ่านในเวปไซด์ Startup Dental Clinic แห่งนี้ ผมมั่นใจว่าเนื้อหาที่ควรรู้มากพอสำหรับในการเปิดคลินิกในช่วงต้น และยังมีเวปไซด์ Dental Business blog (ลิ้ง) ก็เป็นอีกช่องทางที่ฟรี
แต่ถ้าคุณหมอมาด้วยโจทย์ที่อยากเรียนจริงจัง และอยากลงทุนเป็นเรื่องเป็นราวและเอาจริงผมมีคอร์ส Startup Dental Clinic ที่เป็นหลักสูตรสอนเปิดคลินิกแห่งแรกของวงการทันตกรรมโดยความรู้จะครบถ้วนในเนื้อหาสำคัญๆทุกอย่างที่ควรรู้ พร้อมเทคนิคและวิธีการพิเศษ รายละเอียดดูในนี้นะครับ (ลิ้ง)